นายกฯ สั่งจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 2566 มีความไม่แน่นอนสูง

20 พฤษภาคม 2566
นายกฯ สั่งจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 2566 มีความไม่แน่นอนสูง

          นายกฯ สั่งประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่วนตัวเลขไตรมาส 1 ปี 66 GDP ขยายตัว 2.7% สูงกว่าคาด เตรียมโชว์ศักยภาพดึงดูดเงินลงทุนต่างประเทศ ยันเศรษฐกิจไทยฟื้นฟูต่อเนื่อง

          นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลติดตาม และประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นในการทำงานเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว พร้อมได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าตามนโยบายทางเศรษฐกิจที่ได้วางไว้ ส่งเสริมความเชื่อมั่นเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเร็วกว่าที่คาดในไตรมาสแรกของปี ตามที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.7

          โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของภาคบริการ โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รวมทั้งการผลิตในภาคเกษตร ขณะที่การอุปโภคบริโภคของเอกชน และรายรับจากบริการต่างประเทศยังคงขยายตัวต่อเนี่อง

          ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการคาดการณ์ว่า GDP ของไทยช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2566 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า

          ส่วนในไตรมาสนี้ ด้านการผลิต ภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 7.2 จากผลผลิตพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาคบริการ ขยายตัวร้อยละ 5.2 โดยมีแรงสนับสนุนสำคัญมาจากสาขาบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ขยายตัวร้อยละ 34.3 และร้อยละ 12.4 ตามลำดับ

          สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566 สศช. คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.7-3.7 (ณ 15 พฤษภาคม 2566) จากปัจจัยสนับสนุนของการฟื้นตัวการท่องเที่ยว การขยายตัวของการอุปโภคบริโภคในประเทศ และการขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ

          “นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ความท้าทายในโลกซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยให้ติดตาม เฝ้าระวัง พร้อมเดินหน้าตามนโยบายทางเศรษฐกิจที่ได้วางไว้ รวมถึงส่งเสริมความเชื่อมั่น เตรียมความพร้อม ใช้เป็นโอกาสโชว์ศักยภาพดึงดูดเงินลงทุนต่างประเทศ รวมทุกภาคส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างสมดุล เต็มศักยภาพ และยั่งยืน”

แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.